"สบายใจ...แล้วไปต่อ"

การต่อสู้ของคุณมีความหมาย ” ทุกสิ่งที่คุณต่อสู้มา...ล้วนแล้วมีความหมาย...มากมาย ”    อย่าเพิ่งท้อแท้ ท้อถอย สิ้นหวัง หมดกำลังใจ เพราะถึงตอนนี้ท่านจะรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายไร้ผู้คนสนใจและเห็นคุณค่าในสิ่งที่คุณทำ คุณอย่าเพิ่ง อย่าเพิ่งยอมแพ้...จงก้าวเดินต่อไป ก้าวเดินต่อไปด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่มีสิ่งใดหยุดคุณได้นอกเสียจากตัวคุณเอง มองเห็นแต่สิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามในทุกๆสิ่ง ผู้คน เหตุการณ์ เรื่องราว มองเห็นแต่ประโยชน์ โอกาส สิ่งดีงามมากมายในสิ่งต่างๆเหล่านั้น มองเห็นในสิ่งที่ผู้อื่นๆมองไม่เห็น เห็นในสิ่งที่ผู้คนมองข้ามและเรียนรู้เพื่อใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นให้ได้ เปิดใจให้กว้างๆพร้อมจะเรียนรู้อยู่เสมอ ท่านผู้อ่านที่เคารพของผู้เขียนทุกๆท่านที่เปรียบดั่งพี่น้องเป็นดั่งคนในครอบครัวของเราทุกๆท่านอย่าเพิ่งด่วนตัดสินตนเองหรือผู้อื่นและล้มเลิกสิ่งดีงามต่างๆที่ท่านอุตส่าห์เพียรพยายามมาอย่างเนินนานไปง่ายๆเสียก่อน ผู้เขียนหวังเหลือเกินว่า...บทความนี้อาจจะช่วยให้ใจของท่านชุ่มช่ำ มีกำลังใจ แรงบัลดาลใจให้ลุกขึ้นมาต่อสู้และก้าวเดินต่อไป ได้อย่างเข้มแข็ง อดทนและเต็มเปี่ยมไปด้ว

รื่นรมย์กับทุกๆสิ่ง... “ รื่นรมย์ยินดีกับทุกๆสิ่งที่ผ่านเคลื่อนเข้ามา...และเคลื่อนผ่านจากไป ”     มุมมอง...เป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งนี้นั้นเป็นดั่งเข็มทิศนำทางชีวิตของเรา เราอิสระในการเลือกที่จะมอง แต่มุมมองมีหลากหลายทั้งดีและร้ายเลือกมองแบบไหนชีวิตย่อมเป็นเช่นนั้น สุขทุกข์ ดีร้าย โชคดีโชคร้าย เป็นชีวิตที่แสนสุขและเป็นชีวิตที่แสนเศร้า เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยเรื่องสนุกและเต็มไปด้วยความท้าทาย บุคคลรอบๆตัวเราช่างเป็นครูที่ดีของเราจริงๆและบุคคลรอบๆตัวเราช่างเป็นศัตรูของเราจริงๆเราช่างมีชีวิตที่โชคร้ายจริงๆ  ชีวิตจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่เราจะมอง มุมมองเปรียบดั่งรถไฟที่จะพาเราไปยังภูมิภาคต่างๆภาคเหนือ ใต้ ออก ตกเราจะเดินทางไปยังทิศใดก็ได้ สำคัญอยู่ตรงที่ว่า...ขณะซื้อตั๋ว(มุมมองและทัศนะคติ)ของเราเป็นอย่างไร ? ในมุมมองของผู้เขียนผู้เขียนมีมุมมองว่า...ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมักจะนำผู้เขียนไปสู่สิ่งที่ดีเสมอ ไม่ว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นรอบๆกายของผู้เขียน เรื่องราว เหตุการณ์ ผู้คน การเปลี่ยนแปลงต่างๆมักจะนำผู้เขียนไปสู่สิ่งที่ดีเสมอและเรื่องราวเหล่านั้นมักจะมอบสิ่งที่มหัศจรรย์

JACK MA     มาเติมกำลังใจและแรงบัลดาลใจให้หัวใจของท่านผู้อ่านทุกๆท่านกันนะครับ โดยบุคคลที่เป็น   I DOL   ที่ยอดเยี่ยมของผู้เขียนและท่านผู้อ่านหลายๆท่าน นั้นคือ  แจ็ค หม่า มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนและเป็นบุคคลที่น่ายกย่องอย่างมากครับ เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท   E-commerce   ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีบริษัทในเครืออีกมากมาย ผู้เขียนหลงใหลในปรัชญา แนวคิด มุมมองและความรู้ที่แสนยอดเยี่ยมต่างๆในตัวของเขา จึงอยากนำมาแบ่งปันให้กับท่านผู้อ่านทุกๆท่านได้ลองศึกษาดูผ่าน   VDO จาก YOUTUBE   ที่เขาไปพูดที่เกาหลีใต้ ไม่รอช้าครับ ถ้าท่านผู้อ่านทุกๆท่านพร้อมแล้ว ไปชมกันเลยครับ   กระผมขอขอบพระคุณ เจ้าของคลิปวิดีโอที่แสนวิเศษนี้มา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ

เปลี่ยนสิ่งร้าย...ให้กลายเป็นดี “ โลกนี้จะเป็นอย่างไร...ก็อยู่ที่ใจเราคิด !”    ความทุกข์ใจ ความหม่นหมอง เศร้า เสียใจ วิตกกังวล กินไม่ได้นอนไม่หลับ อึดอัด ขัดข้องใจ เศร้าใจและนำเราไปสู่การเป็นโรคเครียด โรคหัวใจและโรคอื่นๆตามมาในที่สุด สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกๆท่านที่เป็นดั่งครอบครัวของผู้เขียน พี่สาว น้องสาว พี่ชาย น้องชายของผู้เขียนทุกท่าน บทความนี้ผู้เขียนตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อจุดประกายให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านที่กำลังตกอยู่ในสภาวะนี้ หายจากอาการต่างๆเหล่านี้  ได้อย่างง่ายดายโดยที่ท่านไม่ต้องกินยาใดๆทั้งสิ้น ถึงท่านจะกินยา นั่นก็ไม่ได้ทำให้ท่านหายขาดได้ เพียงแต่ช่วยให้ทุเลาเบาบางลง ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ! ส่วนยาวิเศษที่ผู้เขียนจะมอบให้กับท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ได้นำไปใช้รักษาใจและอาการต่างๆที่ท่านผู้อ่านกำลังเป็นให้หายนั้น เพียงประโยคสั้นๆง่ายๆเพียงเท่านั้น นั่นคือ  “ โลกนี้เป็นโลกแห่งคู่ ” เพราะทุกๆสิ่ง ล้วนเกิดมาเป็นคู่ ไม่มีสิ่งใดเกิดมาโดยลำพัง ยกตัวอย่างเช่น มีความมืดจึงมีแสงสว่าง , มีมากมีน้อย , มีขึ้นมีลง , มีสูงมีต่ำ , มีคนดีมีคนไม่ดี , มีทุกข์มีสุข , ม

มองไปข้างหน้า... “ ทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น...แล้วก้าวเดินต่อไป ”       มีผู้คนมากมายที่ต้องทนทุกข์ตรมขมขื่นหัวใจ วันแล้ววันเล่า ค่ำคืนแล้วค่ำคืนเล่า กับเรื่องเดิมๆในอดีต นึกถึงเมื่อไรทุกข์ใจเมื่อนั้น สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกๆท่าน บทความนี้ผู้เขียนตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อให้ท่านผู้อ่านท่านใด ที่ตอนนี้กำลังเศร้าใจ เสียใจ หมดกำลังใจในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าเพราะเรื่องราวในอดีต ที่คอยบั่นทอนพลังใจของท่านในปัจจุบัน ผู้เขียนเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพราะได้แรงบัลดาลใจ จากเรื่องราวในอดีตของผู้เขียนเองครับ เพราะผู้เขียนเองก็เคยถูกเรื่องราวในอดีต คอยบั่นทอนจิตใจตนเองและเป็นทุกข์อย่างมากมายเช่นกันและเมื่อเวลาผ่านไป ผู้เขียนได้เรียนรู้วิธีการจัดการกับเรื่องนี้ได้ในที่สุด(จากการศึกษาธรรมะที่แสนวิเศษของพระพุทธองค์)ผู้เขียนจึงอยากแบ่งปันทางออกที่เปรียบดั่งแสงสว่างที่แสนวิเศษ ให้กับท่านผู้อ่านที่เคารพของผู้เขียนทุกๆท่าน วิธีการที่แสนวิเศษนั้นคือ การมองไปข้างหน้า มองเห็นแต่สิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อยู่กับปัจจุบันและทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด มองอดีตเป็นครู

ความพอดี... “ ความพอดี...คือ ความลงตัว ความลงตัว คือ ความราบรื่น ”     ไม่มากเกินไปหรือไม่น้อยเกินไป , ไม่เร็วเกินไปหรือไม่ช้าเกินไป , ไม่ดีเกินไปหรือไม่แย่เกินไป , ไม่กินมากไปหรือไม่กินน้อยไป , ไม่ทำงานมากไปหรือไม่ทำงานน้อยเกินไป , ไม่คิดถึงมากไปหรือไม่คิดถึงน้อยเกินไป ไม่รักมากเกินไปหรือไม่รักน้อยเกินไป ถ้าเราสามารถบริหารใจของเราให้อยู่ตรงกลางอยู่ในความพอดีได้ ผู้เขียนเชื่อว่า...จะไม่เรื่องใดสามารถทำให้ท่านผู้อ่านทุกข์ใจได้เลยครับ เพราะคนเราส่วนใหญ่นั้นล้วนแล้วแต่มีความทุกข์ ความเศร้า เสียใจ ความท้อแท้ สิ้นหวัง ไร้พลังกำลังใจ เพราะในยุคปัจจุบัน คนทุกคนต่างต้องต่อสู้กับทั้งโลกภายนอกทั้งหลายที่ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องให้ทุกข์ใจ เรื่องราว ผู้คน เหตุการณ์ ทุกๆคนต่างต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอด ไม่เพียงเท่านั้น เรายังต้องต่อสู้กับจิตใจของตนเองด้วย เพราะจิตใจของเราทุกๆคนล้วนเต็มไปด้วยความอยาก ซึ่งความอยากนี้นำมาซึ่งความทุกข์อย่างมากมาย แล้วเราจะทำอย่างไรดีละ … เราจึงจะสามารถจัดการความทุกข์ต่างๆนั้นได้ ? ง่าย...มากๆครับ ที่ผู้เขียนตอบชัดเจนอย่างนั้นก็เพราะว่า...ผู้เขียนมีหลัก

การตอบแทนพระคุณ ผู้มีพระคุณกับเราทุกๆท่าน อย่างเต็มที่ “ การทำความดี เปรียบดั่งการสร้างแสงสว่าง...ในความมืดมิด ”    บุคคลที่ประสบความสำเร็จ  บุคคลที่มีเสน่ห์ เปลี่ยมล้นไปด้วยความสุข และแวดล้อมไปด้วยคนดีๆ สิ่งดีๆต่างๆมากมาย พวกเขาทั้งหลายต่างรู้ว่า...การจะเป็นอย่างนั้นได้ ต้องทำอย่างไร ?  นั้นคือ การทำความดีครับ ความดีหรือสิ่งดีๆที่คุณทำ ! หรือบุคคลอื่นๆทำ ความดีนั้น ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา แต่รับรู้ได้ด้วยใจ ความดีเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นพลังงานที่คอยให้แสงสว่างกับชีวิต ของผู้ที่หมั่นเพียรในการทำในการปฏิบัติ  เราค่อยๆทำ ค่อยๆสะสม ค่อยๆสร้างไปเรื่อยๆ และเมื่อเวลาผ่านไป...ความดีที่สะสมไว้ ก็จะค่อยๆผลิดอก ออกผล เบ่งบานสะพรั่ง สวยงาม บทความนี้ผู้เขียน ตั้งใจเขียนขึ้นมา เพื่ออยากให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านเริ่มให้ความสำคัญ และใส่ใจทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมและวิเศษนี้  นั้นคือ  การตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ และผู้มีพระคุณของเราทุกๆท่าน อย่างเต็มที่ เพราะการทำความดี เปรียบดั่งการสร้างแสงสว่าง ในความมืดมิด   สิ่งนี้คือ พื้นฐานหรือวัตถุดิบหลักที่สำคัญของความเจริญ ที่จะเกิดขึ้นกับทุกๆคน ทุกๆสิ

คุณค่า...ของเวลา “ ทุกๆสิ่งผ่านเคลื่อนเข้ามา...และค่อยๆเคลื่อนผ่าน จากไป ”      วันเวลาเป็นสิ่งที่ทุกๆคนมีและแน่นอนว่า วันเวลาที่ทุกๆคนมีอยู่นั้น ก็กำลังค่อยๆหมดไป หมดลงไปเรื่อยๆ...ผู้เขียนเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะว่าผู้เขียนอยากชวนให้ท่านผู้อ่านที่เคารพของผู้เขียนทุกๆท่าน เริ่มให้ความสำคัญและมองเห็น คุณค่าที่แท้จริงของวัน เวลาอย่างลึกซึ้ง เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่ท่านเห็นความสำคัญและคุณค่าที่แท้จริงของวันและเวลาอย่างลึกซึ้ง ผู้เขียนเชื่อว่าท่านจะมีชีวิตที่มีความสุขในทุกๆวันอย่างมากมาย เพราะท่านจะรู้ว่า...ท่านควรใช้วันและเวลาที่แสนมีค่าของท่านเพื่อทำสิ่งใด สิ่งใดที่ดีๆและมีคุณค่า ประโยชน์ ความหมาย ต่อตนเองและทุกๆคนที่แวดล้อมตัวเราไม่ว่าจะเป็นทุกๆคนในครอบครัว เพื่อนๆ เพื่อนร่วมงาน บุคคลที่เราคบค้าสมาคมด้วย และคนอื่นๆที่ท่านผู้อ่าน มีโอกาสได้รู้จัก พบเจอ ผู้เขียนเชื่ออยู่เสมอว่า ” ความดี การทำความดีและสิ่งดีๆคือแสงสว่างที่จะนำทางชีวิตของเรา ไปสู่สิ่งที่ดีงามเสมอ ” ขอบพระคุณท่านผู้อ่านทุกๆท่านและสวัสดีครับ

บุคคลที่รักและหวังดีกับเรามักจะติชมเราอยู่เสมอ “ มีแต่คนที่รักและหวังดีเท่านั้น ที่มักจะติชมเราอยู่เสมอ … เพราะลึกๆแล้วในใจของเขาเหล่านั้น ปรารถนาให้คุณพัฒนาและก้าวหน้าต่อไป ”    สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกๆท่าน บทความนี้เหมาะมากๆเลยนะครับ สำหรับท่านผู้อ่านท่านใดที่กำลังรู้สึกว่า...ทำไมตนเองถึงชอบโดนตำหนิติเตียนจากผู้คนที่แวดล้อมตนเองอยู่เสมอ ?   ผู้เขียนตอบได้เพียงคำเดียวครับว่า...ก็เพราะว่าท่านผู้อ่านโชคดียังไงละครับ ที่ผู้เขียนกล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่า มีแต่คนที่รัก หวังดี ปรารถนาดี กับเราเท่านั้นละครับ ที่จะคอยบอกคอยแนะนำ คอยตำหนิเรา เพื่อให้เราแก้ไข ปรับปรุง พัฒนา สิ่งนั้นๆให้ดีขึ้น ถ้ามองเช่นนี้แล้วผู้เขียนเชื่อว่า...สุดท้ายบุคคลที่ได้รับประโยชน์และสิ่งดีๆมากที่สุดก็คือ ท่านผู้อ่านเองครับ ถ้าท่านผู้อ่านท่านใดที่เจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ผู้เขียนบอกได้เพียงคำว่า ” ท่านโชคดีจริงๆครับ ” ขอบคุณและสวัสดีครับ

การวิ่งตามความอยาก... “ การวิ่งตามความอยาก...เปรียบดั่งการวิ่งไล่จับลมเล่น …”     “   ธรรามดา ธรรมชาติ ของความอยากนั้น ไร้ขอบเขต ไร้จุดสิ้นสุด ไม่สามารถเติมเต็มได้ ไม่ว่าเราพยายามจะเติมเต็มสักเท่าไร ก็ไม่มีแววว่า...ความอยากนั้นจะได้รับการเติมเต็มเสียที ”   สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกๆท่าน บทความนี้ผู้เขียนตั้งใจเขียนขึ้นมา เพื่อเป็นกำลังใจและจุดประกายท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ที่ ณ ตอนนี้กำลังทุกข์ใจ ไม่สบายใจเพราะการวิ่งไล่ความอยากของตนเอง ธรรมดา ธรรมชาติของความอยากนั้นมักจะเรียกร้องสิ่งต่างๆจากเราอยู่เสมอไม่เคยพอ และไม่รู้จักคำว่าพอ เราจึงต้องดิ้นรน ไขว่คว้า ลำบาก ตรากตรำเป็นอย่างมาก เพื่อแสวงหาสิ่งต่างๆมาเติมเต็ม และเมื่อเรายิ่งพยายามเติมเต็มมากเท่าไร ความทุกข์ใจ ทุกข์กาย ก็เพิ่มสูงขึ้นมากเท่านั้น ท่านผู้อ่านทุกๆท่านอย่าเพิ่งหมดหวัง กำลังใจ ท้อใจไปเสียก่อนนะครับ เพราะว่า ผู้เขียนได้เตรียม ยาวิเศษที่สามารถรักษาความทุกข์ใจของท่านได้ เตรียมไว้ให้ท่านแล้วครับ ยาหรือโอสถที่แสนวิเศษนั้น คือ ธรรมะ ธรรมะที่แสนวิเศษ ของพระพุทธองค์ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เขียนเองก็มีความทุกข์ในเรื่องน

    " มาสร้างแรงบัลดาลใจ ด้วย  VDO  ที่แสนยอดเยี่ยม กันดี  กว่าครับ " ผู้เขียนขอบขอบพระคุณ เจ้าของ วิดีโอ 2busy2know มา ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ 

คุณ คือ กุญแจ ของคุณเอง... “ กุญแจทุกอัน ที่ถูกผลิตออกมา ต่างมากันเป็นคู่เสมอ(ลูกกุญแจและแม่กุญแจ)คุณเองก็เช่นกัน ”    ไม่มีใคร...จะเข้าใจคุณได้มากกว่าตัวคุณเอง เพราะคนเราส่วนใหญ่ เมื่อต้องคิด ตัดสินใจอะไร ทำอะไร ก็มักจะถามคนอื่นๆอยู่เสมอ ว่าฉัน ผม ทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ ได้ไหม ? เธอคิดว่า...เราทำได้ไหม ? และนู้น นี่ นั่น จนลงลืม มองข้ามไป ว่าบุคคลที่เราควรถาม มากที่สุด คือใคร บุคคลนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกล คือตัวเราเองครับ เพราะที่ผู้เขียน กล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่า ไม่มีใครจะรู้จักและเข้าใจเรา ได้มากกว่าตัวเราเอง เราไม่ควรไปตัดสินใคร หรือ ให้ใครมาตัดสินเรา ว่า สิ่งใดที่เราทำได้ หรือ สิ่งใดที่เราทำไม่ได้ อย่าให้ใครมาจำกัด ศักยภาพและความสามารถที่แท้จริงของเรา เราควรค่อยๆเรียนรู้ และค่อยๆทำความรู้จักตนเองให้มากๆ ค้นหาสิ่งที่ตนเองชอบ สิ่งที่ตนเองรักให้เจอ และในที่สุด...คุณก็จะพบเส้นทางชีวิตของคุณเอง ที่คุณเลือกเอง และเดินไปบนเส้นทางนั้นอย่างมีความสุขในทุกๆก้าวที่คุณเดินไป...ขอบคุณครับ(กุญแจของคุณ...ก็คือ ตัวของคุณเอง)

ถ่อมตน...ถ่อมใจ “ แล้วท่าน...จะเห็น อะไรๆที่งดงาม มากมาย ”    “ ความถ่อมตน เปรียบดั่งการทำตนเองให้เป็นดั่ง ล่องน้ำ เป็นดั่งลำครอง พร้อมที่ลองรับ พร้อมที่จะเติมเต็ม พร้อมที่จะรับฟัง พร้อมที่เปิดใจ พร้อมที่จะเรียนรู้ ทุกๆสิ่งที่ผ่านเคลื่อนเข้ามา และเคลื่อนผ่านไป ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราว เหตุการณ์ ผู้คน ดีร้าย ” บทความนี้ผู้เขียนตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่ออยากให้ท่านผู้อ่านที่เคารพของผู้เขียนทุกๆท่าน  ที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆอย่างมากมาย(เพราะบางครั้ง ท่านอาจจะสูงเด่น เป็นภูเขามากเกินไป เมื่อมีลม มีพายุเคลื่อนผ่านเข้ามา ท่านจึงต้องปะทะ เต็มๆหลีกเลี่ยงไม่ได้)ถ้าท่านทำตนเองให้เป็นดั่งลำคลอง เป็นดั่งล่องน้ำ ผู้เขียนเชื่อว่า ท่านจะได้แต่ประโยชน์ และโอกาสดีๆต่างๆมากมาย รายล้อมตัวท่านอย่างแน่นอนครับ  ขอบคุณครับ ผู้เขียนขอจบบทความนี้ เพียงเท่านี้นะครับ สวัสดีครับ

ได้เท่านี้...ก็ดีแค่ไหน “ บางครั้ง เราเพียร พยายาม ทำอย่างเต็มที่แล้ว ในหลายๆเรื่อง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมา กลับน้อย นิดเดียว ”    การทุ่มเท เพียร พยายามอย่างมากมาย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ กลับทำให้รู้ท้อแท้ หมดกำลังใจ ผู้เขียนเองก็เคยเป็นเช่นกันครับ และเมื่อเวลาผ่านไป ผู้เขียนได้เรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ และได้เข้าใจว่า...สิ่งที่เราทุ่มเท เพียรพยายามอย่างเต็มที่ ทำลงไป บางอย่างผลลัพธ์ ที่ได้อาจจะดูเล็กน้อย นิดเดียว แต่เราอย่าเพิ่ง หมดหวัง กำลังใจ ถอดใจไปเสียก่อนนะครับ เพราะบางสิ่งที่ดูเล็กน้อย อาจจะเป็นจุดเริ่มต้น ที่ยิ่งใหญ่ หรือความสำเร็จที่ดีที่สุดและสำคัญที่สุดในเรื่องนั้นๆ ก็เป็นได้ครับ เพราะก้าวแรก คือก้าวสำคัญ และมีความหมายมากที่สุด บทความนี้ ผู้เขียน เน้นเขียนให้สั้น เพราะเน้นความชัดเจนที่อยากบอกกับท่านผู้อ่าน ท่านที่กำลังเจอกับสถานการณ์ เช่นนี้ ให้เห็นความสำคัญของก้าวแรก ว่าถึงจะดูเล็กน้อย แต่สิ่งนั้นก็อาจจะเป็น จุดเริ่มต้นที่สำคัญและดีที่สุดก็ได้ครับ ขอบคุณมากครับ

ได้เท่านี้...ก็ดีแค่ไหน “ บางครั้ง เราเพียร พยายาม ทำอย่างเต็มที่แล้ว ในหลายๆเรื่อง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมา กลับน้อย นิดเดียว ”    การทุ่มเท เพียร พยายามอย่างมากมาย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ กลับทำให้รู้ท้อแท้ หมดกำลังใจ ผู้เขียนเองก็เคยเป็นเช่นกันครับ และเมื่อเวลาผ่านไปผู้เขียน ได้เรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ และได้เข้าใจว่า...สิ่งที่เราทุ่มเท เพียรพยายามอย่างเต็มที่ ทำลงไป บางอย่างผลลัพธ์ ที่ได้อาจจะดูเล็กน้อย นิดเดียว แต่เราอย่าเพิ่ง หมดหวัง กำลังใจ ถอดใจไปเสียก่อนนะครับ เพราะบางสิ่งที่ดูเล็กน้อย อาจจะเป็นจุดเริ่มต้น ที่ยิ่งใหญ่ หรือความสำเร็จที่ดีที่สุดและสำคัญที่สุดในเรื่องนั้นๆ ก็เป็นได้ครับ เพราะก้าวแรก คือก้าวสำคัญ และมีความหมายมากที่สุด บทความนี้ ผู้เขียน เน้นเขียนให้สั้น เพราะเน้นความชัดเจนที่อยากบอกกับท่านผู้อ่าน ท่านที่กำลังเจอกับสถานการณ์ เช่นนี้ ให้เห็นความสำคัญของก้าวแรก ว่าถึงจะดูเล็กน้อย แต่สิ่งนั้นก็อาจจะเป็น จุดเริ่มต้นที่สำคัญและดีที่สุดก็ได้ครับ ขอบคุณมากครับ

อกหัก ผิดหวัง เศร้า เสียใจ... “ เมื่อมีรัก ย่อมมี อกหัก เพราะหวัง จึงผิดหวัง สุขและทุกข์ มาคู่กันเสมอ ”    “ เพราะรัก...มาก จึงทุกข์มาก เพราะหวัง...จึงผิดหวัง ต้องการสุข ความทุกข์จึงเกิดขึ้นตามมา ทุกๆอย่างมาเป็นคู่ เราปฏิเสธและเลือกเอาเฉพาะสิ่งที่เราต้องการไม่ได้ ความเสียใจ เศร้าใจ จึงเกิดขึ้นตามมา... ” บทความนี้ผู้เขียนตั้งใจ เขียนขึ้นมาให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านที่กำลัง ผิดหวังในบางสิ่งบางอย่าง เศร้า เสียใจ ให้กับเรื่องราวต่างๆในชีวิต อยู่ ณ ขณะนี้  ให้มีกำลังใจในการลุกขึ้นมาต่อสู้และก้าวเดินไปข้างหน้า อีกครั้ง อย่างมีพลังและกำลังใจ ผ่านมุมมอง ที่ผู้เขียนจะชวนให้ท่านผู้อ่าน คิดตาม ไปเริ่มกันเลยนะครับ ในมุมมองของผู้เขียน ผู้เขียนมองว่า...ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เปรียบดั่งสายลม พัดผ่านมา กระทบ สัมผัสตัวเรา แล้วก็ค่อยๆพัดผ่านไป เหลือไว้เพียง ความทรงจำ ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีสิ่งใด แน่นอน แปรเปลี่ยนอยู่เสมอ ไร้ซึ่งตัวตนที่แท้จริง คือไม่มีสิ่งใด เที่ยงแท้แน่นอน มั่นคง ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง ไป ตามกาลเวลา สิ่งที่เรา ทำได้ดีที่สุด คือ การทำใจ ยอมรับ เรียนรู้ เข้าใจ และปล่อย ปล่อยทุกสิ่งทุกอย

สำหรับคนที่อยากมีความรัก... “ ความรักเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ต้องใช้เวลา จนกว่าจะเข้าใจซึ่งกันและกัน อย่างลึกซึ้ง แท้จริง ถึงจะก้าวเดินไปด้วยกันได้อย่างมีความสุข ค่อยๆช้าๆใจเย็นๆ ”  “ ธรรามชาติของความรัก คือการให้ ให้ซึ่งกันและกัน ให้ความรู้สึกดีๆ ความปรารถนาดี ความห่วงใย และมอบแต่สิ่งดีๆให้กันเสมอ เมื่อคุณรักใคร หรือ เมื่อคุณตกหลุมรักใคร ไม่ต้องรีบร้อน ใจเย็นๆ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ค่อยๆศึกษาเรียนรู้ ซึ่งกันและกัน ค่อยๆจีบ ค่อยๆคุย ไปเรื่อยๆ แต่การกระทำต้องชัดเจนหนักแน่น เพื่อให้อีกฝ่าย สามารถเข้าใจ รับรู้ได้ โดยที่เราไม่ต้องอธิบาย ใส่ใจลายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เสมอต้นเสมอปลาย สม่ำเสมอ ” เพียงเท่านี้  ผู้เขียนเชื่อว่า...ท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ก็จะมีความรักและคนรัก ที่มีชีวิตคู่ที่ดี ในระยะยาว ยาวนาน มั่นคงและผู้เขียนเชื่อว่า ความรักที่มีคุณภาพนี้ คือ สิ่งที่จะเป็นพลังและผลักดันตัวท่านให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความสุข และทำจุดหมาย ของตนเองได้อย่างมีพลังและความหวังที่ชัดเจน ขอบพระคุณมากครับ

เมื่อคุณ...หลงลืมจุดหมาย “ บางสิ่ง บางอย่าง ที่เราหลงลืมไป เมื่อตอนนั้น ครั้งที่เรายังลำบาก ”    บทความนี้ผู้เขียน ได้แรงบัลดาลใจในการเขียน มาจากเมื่อคืน ขณะที่ผู้เขียนกำลังอาบน้ำ อยู่ดีๆภาพตอนเด็กๆของผู้เขียน ช่วงเวลาในอดีต ที่ชีวิตของผู้เขียน แสนลำบาก ตรากตรำ ก็ฉายขึ้นมาในใจ ของผู้เขียน แล้วคำถาม คำถามหนึ่งก็เกิดขึ้นมาในใจของผู้เขียนตามมา คำถามนั้นคือ “ นายลืม ลืมความฝัน หรือ จุดหมายของนายไปแล้วหรือ ? ปณิธานที่แน่วแน่ของนาย หายไปไหน สภาพแวดล้อม เหตุการณ์ ผู้คน สถานะเปลี่ยน แต่นายไม่ควรเปลี่ยน ควรชัดเจนในปณิธานของนาย เมื่อครั้งที่นายต่อสู้ดินรนในอดีต พอคำถาม ภาพในความทรงจำ ความรู้สึกในอดีตที่ผู้เขียน ยังจำได้ไม่ลืมเลือน ค่อยๆจางหายไป ผู้เขียนรู้สึก ดีและตื้นตันใจมากๆครับ เพราะว่าในที่สุด สิ่งเหล่านี้ ก็ได้จุดประกาย ให้ผู้เขียน ตื่น ตื่นขึ้นมาและอยู่ในเส้นทางเดิม ที่มุ่งมั่น ตั้งใจ ไว้อีกครั้ง... ” ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความนี้จะช่วย จุดประกาย จุดหมาย ปลายทาง ความฝัน ปณิธาน ความแน่วแน่ ชัดเจน ให้กับท่านผู้อ่านทุกๆท่านได้ไม่มากก็น้อย ขอบพระคุณมากครับ

ความขยัน คือ ปาฏิหาริย์ของชีวิต “ ความขยันหมั่นเพียร...คือ สิ่งที่สร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้จริง โดยที่เราไม่ต้องรอคอย อ้อนวอน ขอจากสิ่งใด ”    สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพของผู้เขียนทุกๆท่าน  บทความนี้ผู้เขียนได้แรงบัลดาลใจในการเขียน มาจากการได้โชคดีมีโอกาสได้สนทนาพูดคุย กับรุ่นพี่ที่ทำงานคนหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนและเขาก็ได้พูดคุยแรกเปลี่ยน ประสบการณ์ ความรู้ ซึ่งกันและกัน ผู้เขียนถือว่าการสนทนาครั้งนี้ เป็นการสนทนาที่ดีมากๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตของผู้เขียนเลย ก็ว่าได้ครับ เพราะว่าความรู้ต่างๆที่ผู้เขียนได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้จากรุ่นพี่ ที่ทำงานคนนั้นคือ ความรู้ ประสบการณ์ดีๆ มากมาย และบางความรู้ บางสิ่งบางอย่าง ผู้เขียนก็ไม่รู้ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ ผู้เขียนรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากครับ จึงอยากนำมาแบ่งปัน ให้กับท่านผู้อ่านที่เคารพของผู้เขียนทุกๆท่านครับ ซึ่งใจความที่ ผู้เขียนสรุปมาให้กับท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ก็คือ ” ความขยัน คือ ปาฏิหาริย์ของชีวิต ” ครับ ในขณะที่ผู้เขียนฟังรุ่นพี่เขาพูด ผู้เขียนได้แต่นิ่ง อึ้งและตั้งใจฟังครับ เพราะว่านอกจากเขาจะอธิบายถึงความสำคัญของสิ่งนี้แล้ว ยังอ

ความรัก... “ ความรัก ไม่ว่าเรามอบให้ใคร หรือ ใครมอบให้เรา ช่างเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เหลือเกิน ”    สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพ ของผู้เขียนทุกๆท่าน บทความนี้ ผู้เขียนตั้งใจเขียนขึ้นมา...ไม่เพียงให้บุคคลที่มีความรัก อ่านเท่านั้น แต่ผู้เขียนตั้งใจเขียนขึ้นมา เพื่อท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ไม่ว่าท่านจะมีความรัก มีชีวิตคู่หรือไม่ เพราะว่าความรักที่ผู้เขียนจะเอ่ยถึงนั้น เป็นความรักที่แสนวิเศษที่ท่านจะมอบให้ใคร ที่ไหน เมื่อไรก็ได้ ซึ่งความรักชนิดนี้นั้น มีพลังที่ยิ่งใหญ่ เราสามารถให้กับบุคคลที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นทุกๆคนในครอบครัว เพื่อนๆ เพื่อนร่วมงาน คนรู้จัก บุคคลที่เราคบค้าสมาคมด้วย หรือบุคคลต่างๆที่ด้อยโอกาสทางด้านต่างๆ เราสามารถช่วยเหลือได้ตามศักยภาพของเรา เพราะความรักชนิดนี้ มีชื่อว่า การให้ ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งกันและกัน(ให้โดยมิหวังผลตอบแทน) ” ผู้เขียนเชื่อว่า ท่านผู้อ่านที่เคารพของผู้เขียนทุกๆท่าน เป็นบุคคลแห่งความรักและการให้ ” ขอบคุณครับ 

เป็นหนี้...(2) “ ต่อจาก...บทความที่แล้วนะครับ ว่าเราจะจัดการกับหนี้สินต่างๆมากมาย ที่เรามีได้อย่างไร ? ให้หมดไปและไม่กลับไปเป็นหนี้อีก ?”     ผู้เขียนเข้าใจความรู้สึก ของทุกๆท่านที่มีหนี้สินเป็นอย่างดีและเห็นใจทุกๆท่านเป็นอย่างมากครับ เพราะเมื่อก่อน ผู้เขียนเองก็เคยมีหนี้สินมากมายเช่นกัน ! แต่ปัจจุบัน ผู้เขียนสามารถจัดการกับหนี้สินเหล่านั้น ให้หมดไปได้ทั้งหมดในที่สุดครับ และผู้เขียนเรียนรู้จากบทเรียนเหล่านั้นว่า...การตามความอยากของตนเองนั้น เป็นสิ่งที่ไร้จุดสิ้นสุดจริงๆครับ ไม่สามารถเติมเต็มได้(หนี้สินที่เกินความจำเป็น)และนี้สิน อีกประเภทหนึ่งคือ หนี้สินที่จำเป็นต้องใช้จ่ายหรือกู้ยืมมาเพื่อใช้ใน สถานการณ์ที่จำเป็นจริงๆ(สิ่งนี้คือ หนี้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และน่าเห็นใจทุกๆท่านเป็นอย่างมากครับ)สิ่งที่ผู้เขียน...อยากแนะนำ แบ่งปัน ให้กับท่านผู้อ่านทุกๆท่านก็คือ การมองเห็นคุณค่าและขอบคุณสิ่งต่างๆที่ท่านมี มองเห็นคุณค่า ประโยชน์ และขอบคุณทุกๆอย่างที่ท่านมีในชีวิต พยายามประหยัด เก็บออมและใช้สิ่งต่างๆที่ท่านมีอย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุดครับ(ป้องกันการสร้างหนี้ใหม่) และมองหาช่องทางสร้างร

เป็นหนี้... “ หนี้สิน...ก็มากมาย รายจ่าย...ก็มากมี ”    “ จะทำ...อย่างไรดี ? คำถามนี้เป็นคำถาม...ที่ไม่มีใครจะสามารถ ตอบได้ดีเท่าตัวเราเองครับ เพราะหนี้สินและรายจ่ายต่างๆล้วนเกิดจากเรา เราเป็นผู้สร้าง ผู้ทำขึ้นมาเอง ” แต่ท่านผู้อ่านทุกๆท่าน(ที่มีหนี้สิน)อย่าเพิ่งสิ้นหวัง หมดกำลังใจไปเสียก่อนนะครับ เพราะว่าผู้เขียน จะคอยให้กำลังใจและเป็นที่ปรึกษาให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านที่กำลังตกอยู่ในสภาวะนี้ ทุกๆท่านเสมอครับ ตอนนี้สิ่งที่ท่านควรให้ความสนใจ ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ การตั้งคำถามครับ แล้วตั้งคำถามเพื่ออะไรละ ? ทำไมจึงต้องตั้งคำถาม ? ท่านผู้อ่านหลายๆท่านก็อาจจะงงว่า...เอ๊ะ ! ทำไมอยู่ดีๆผู้เขียนถึงให้ ท่านผู้อ่านตั้งคำถาม ? แล้วจะตั้งคำถามเพื่ออะไรละ ? คำตอบของผู้เขียนก็คือ...ก็เพราะว่า คำถามที่ ผู้เขียนจะชวนท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ถามและตอบนั้น ทั้งคำถามและคำตอบ ท่านผู้อ่านจะเป็นทั้งผู้ถามและเป็นผู้ตอบ คำถามทั้งหมด ด้วยตัวท่านเอง(ผู้เขียนเป็นเพียงผู้ชวนท่านตั้งคำถามเหล่านั้นเท่านั้นเองครับ)มาเริ่มคำถามข้อแรกกันเลยนะครับ  1.รายจ่ายใดที่ไม่จำเป็น ? (เกินความจำเป็นให้ตัดทิ้งออกครับ

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล “ สอนจัดทัพลงทุน สู่อิสรภาพทางการเงิน ”    ผู้เขียนโชคดีได้มีโอกาส บังเอิญไปเจอคลิป VDO คลิปหนึ่งใน Youtube (ในขณะที่ผู้เขียนก็ดูคลิป VDO ต่างๆใน YOUTUBE ไปเรื่อยๆเพลิน ตามปกติ)ผู้เขียนก็เลยกดเข้าไปดู อาบน้ำไป ฟังไปเรื่อยๆผู้เขียนก็รู้สึกว่า เอ๊ะ ! ทำไม คลิป VDO สอนเกี่ยวกับการลงทุนนี้  ของท่าน ดร.สมจินต์ ศรไพศาล ท่านถึงได้สอนดีขนาดนี้ ผู้เขียนจึงอยากแบ่งปัน ให้กับท่านผู้อ่านทุกๆท่านได้รับชมเช่นกันครับ ผู้เขียนรับรองว่า ท่านผู้อ่านทุกท่าน จะรู้สึกว่า ทุกวินาทีที่รับชมสิ่งที่ท่าน ดร.สมจินต์ ศรไพศาล พูด สอน นั้นคุ้มค่าอย่างมากมายเลยครับ ไม่รอช้าครับ ท่านผู้อ่านทุกๆท่านพร้อมแล้ว ไปรับชมกันเลยครับ ขอบคุณครับ (กระผม ขอขอบพระคุณ ท่าน ดร.สมจินต์ ศรไพศาล มา ณ โอกาสนี้ ด้วยนะครับ สำหรับ คำสอนในการลงทุนที่แสนวิเศษนี้ ขอบพระคุณมากครับ )